![วิธีการเลือกซื้อแอร์บ้านมือสอง](http://3.bp.blogspot.com/-77vBt-dLFxA/TW8G_4V6fKI/AAAAAAAAArg/A2d0latMWG8/s320/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587.jpg)
1. ตรวจสอบคนลงประกาศขาย หรือร้านที่ลงประกาศขายว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงพอหรือไม่ เพราะแอร์มือสองไม่ได้มีบัตรรับประกันเหมือนแอร์ใหม่จากโรงงานนะครับ ถ้ามีปัญหาแล้วตามคนขายไม่ได้เดี๋ยวจะแย่เอา
2. ถ้าจะซื้อแอร์มือสองถ้าเลือกได้ควรเลือกแอร์ที่มียี่ห้อหน่อยครับ เพราะถ้าเป็นแอร์โนเนมแถมยังเป็นแอร์มือสองอีกก็เสี่ยงหน่อย เพราะอาจจะมีปัญหาจุกจิกภายหลังได้ง่ายกว่าแอร์แบบมียี่ห้อ
3. ควรเช็ครุ่น เช็คยี่ห้อของแอร์รุ่นนั้นๆ เพื่อจะได้ทราบคร่าวๆว่าแอร์มือสองที่เราจะซื้อนั้นมีอายุการใช้งานมานาน เท่าไหร่แล้ว เพราะบางทีคนขายเขาอาจจะไม่แจ้งอายุการใช้งานจริงๆของแอร์ตัวนั้นก็ได้ (อาจจะเพราะไม่รู้จริงๆหรือตั้งใจไม่บอกก็เป็นได้ครับ)
4. ตรวจสอบสภาพภายนอกว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหาย หนักจนเกินเยียวยาหรือไม่ (ถ้าทำได้ก็ให้เค้าเปิดดูภายในด้วยก็ดี)
5. ถ้าเลือกได้ควรเลือกแอร์มือสอง ที่คนขายเค้ากล้ารับประกันนะครับ เพราะถ้าให้เรามั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง ว่าจะได้แอร์ที่มีคุณภาพ
6. ในการเลือกขนาดบีทียู ของแอร์มือสองถ้าเป็นไปได้ก็ควรเผื่อขนาดแอร์ให้ใหญ่กว่าห้องไปซักเล็กน้อย ก็จะดีมากครับ ไม่ควรคิดตามสูตรการคำนวนของแอร์ใหม่ เพราะขึ้นชื่อว่าแอร์มือสองแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานก็ย่อมต้องลดลงตามอายุการใช้งานเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ควรเผื่อให้ขนาดใหญ่เวอร์นะครับเดี๋ยวจะเปลืองไฟเปล่าๆ
7. แอร์มือสอง ควรจะเลือกซื้อในช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวนะครับ เพราะจะมีตัวเลือกเยอะกว่าหน้าร้อนมาก
ที่มา : airsecondhand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น